ก่อตั้งกองทุนศิลปะ “ไมตรีมิตร”

D0A9A211-B54B-4887-BBA9-01163A4F8A82.jpeg

เพื่อนๆ ผมมีเรื่องจะแจ้ง วันนี้ผมตัดสินใจสำคัญของชีวิตอีกครั้ง..

ผมจะใช้เงินส่วนตัวตั้งกองทุนศิลปะเพื่อพัฒนาและสนับสนุนคนที่อยากสร้างงานศิลปะเพื่อแก้ปัญหาสังคม

1. ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “ผมยังไม่เห็นภาครัฐแสดงความจริงจังที่จะทำความเข้าใจในความหลากหลายและความต้องการของคนที่อยากสร้างงานศิลปะ”

แต่สำคัญกว่าคือ วิสัยทัศน์ และความชัดเจนของแผนพัฒนา ไม่ใช่แค่ช่วงโควิดตลอดปีจนถึงตอนนี้ แต่กว่า 10 ปี ในวงการนี้

“ผมไม่เคยรู้สึกมีความหวัง มีความตื่นเต้น ใดๆ กับข่าวและการสนับสนุนใดๆ เลย” มันน่าเศร้าเหมือนกัน ที่เราไม่เคยมีความรู้สึกนั้นในฐานะประชาชน แต่ในฐานะคนๆ หนึ่ง ผมเชื่อว่าเราช่วยกันสร้างเองได้

.

2. กองทุนส่วนตัวที่จะทำชื่อว่า “ไมตรีมิตร” ที่มา ไว้เล่าอีกทีนะ

แต่หลักๆ คือ ผมจะใช้เงินตัวเอง 3 แสนบาท เพื่อเริ่มต้นทุนนี้ก่อน โดยทุนใช้เพื่อซัพพอร์ทคนที่ต้องการเงินเริ่มต้นในการทำโปรเจคศิลปะ

ในช่วงแรกจะเป็นรูปแบบของการให้ Funding และ Pitching

แต่เนื่องจากผมเชื่อเรื่องการสร้างนวัตกรรม และความยั่งยืน

ฉะนั้นวิธีคิดของทุนนี้จะต่างจาก ทุนศิลปะส่วนใหญ่ในประเทศนี้

ซึ่งปัญหาใหญ่ของการสร้างงานศิลปะที่หลายๆ คนพยายามแก้ไขผมเชื่อว่าคือเรื่อง

"ไม่มีโมเดลธุรกิจที่แข็งแรง ไม่มีความต้องการจากลูกค้ามากพอ และ ไม่สามารถขยายผลได้"

.

3. ฉะนั้นผมจะให้ทุนนี้เป็นอีกตัวเลือกของวิธีแก้ปัญหา (Solution) ของปัญหานี้ไปด้วยเลย หัวใจหลักๆ คือ “ไม่ใช่ให้ทุนเพื่อเอาไปสร้าง” แต่ “เราจะสร้างก่อนแล้วค่อยได้ทุน”

สิ่งที่เราจะสร้างก่อนนี้ไม่ใช่การสร้างผลงาน แต่เราจะสร้างโมเดลธุรกิจของงานให้แข็งแรงจนทุกคนมองเห็นโอกาสกันจริงๆ ก่อน แล้วถึงจะได้เงินทุนต่อไปเพื่อไปช่วยสร้างงานกันจริงๆ แต่แน่นอนว่าเนื่องจากเราเริ่มต้นที่เงินไม่มาก ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือผมต้องมั่นใจว่างานที่จะทำนั้นขยายผลแล้วยั่งยืนได้ เพื่อช่วยให้ผู้ขอทุนได้เติบโตและทำงานที่ท้าทายตัวเองขึ้นไป

.

4. สำหรับคนที่สนใจผมจะอธิบายโมเดลทุนนี้เป็น Concept หลักๆ ก่อน หรือใครอยากรู้ก็ร่วมอ่านได้นะครับ เผื่ออยากจะร่วมงานกัน

ขั้นตอน

1.สัมภาษณ์ให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนไอเดียกันว่าอยากทำอะไร (1 เดือน)

2.ถ้ามีความน่าจะเป็น ก็จะลุยกันต่อ โดยจะมีบริการช่วยกันทำไอเดียให้แข็งแรง เริ่มตั้งแต่หาปัญหาที่จะใช้ศิลปะไปแก้ไข ปั้นไอเดีย หาแผนธุรกิจ จนถึงคิดเรื่องคอมมู (1-2 เดือน)

3.โปรเจคไหนมีความหวังว่าจะทำได้จริง เราก็จะให้ทุนไปทำกันจริงๆ (เวลากำหนดร่วมกัน)

ซึ่งตัวผมเองก็จะอยู่ช่วยทีมที่ได้ทุน และอาจมีการเพิ่มทุนเพื่อร่วมลงทุนเพิ่ม และนำกำไรที่ได้มาเข้ากองทุนต่อ เพื่อให้กองทุนเติบโตและช่วยเหลือผู้คนให้มากขึ้น เป็นโมเดลธุรกิจของกองทุนนี้ในตัวมันเอง

.

5. สุดท้ายผมเชื่อในทุกไอเดียนะครับ จะเป็นศิลปินหรือไม่ใช่ก็ได้ จะมาแบบแค่มีไอเดียอยากทำ หรือ มีโปรเจคที่ทำอยู่แล้ว จะเป็นรูปแบบการสอน การทำโปรดักชั่น FEST นิทรรศการ ทำโครงสร้าง หรือใดๆ ไม่ยึดรูปแบบ เรามาลองคุยกันก่อน

ผมไม่ใช่คนเก่งอะไรมากครับ แต่ในฐานะประชาชน ผมคิดว่าผมรอรัฐมานานแล้ว ฉะนั้นเราเริ่มลุยกันแบบเอกชนกันไปก่อน อะไรที่ผมช่วยเพื่อนๆ ได้ผมช่วยเต็มที่ แต่ถ้าผมช่วยไม่ได้ ผมจะแนะนำทุกคนไปหาคนอื่นที่ผมรู้ว่าเขาน่าจะช่วยเพื่อนๆ ได้ (มีโคตรเซียนอีกมาก ที่ผมเองก็คงจะไปจีบอย่างเป็นทางการเพื่อให้มาช่วยเรื่องนี้กัน)

.

6. ถ้าเพื่อนๆ อยากช่วยผม มีอย่างเดียวที่จะขอครับ

"ช่วยบอกต่อ ช่วยส่งต่อ ช่วยกระจายไปให้ถึงคนที่เขายังมีความฝัน แต่โอกาสในประเทศนี้มันไม่เอื้อเท่าไร"

หรือถ้าอยากร่วมงานกันในมุมอื่นๆ ทักผมส่วนตัวว่าเราจะทำอะไรด้วยกันได้เลยครับ ร่วมลงทุน ร่วมทีม ร่วมโคงาน เปิดรับคุยหมด

สุดท้ายทุนนี้เริ่มต้นเปิดรับเพื่อนๆ ตั้งแต่วันนี้เลยนะครับ (ปีแรกตั้งจะใจจะเปิด 3 รอบ) เขียนแนะนำตัวเข้ามาทิ่ลิงค์นี้นะครับ

https://forms.gle/PTGyLigRhWEHPxuPA

แล้วผมจะติดต่อกลับไป

#อยากทำต้องทำเลยชีวิตคิดมากเกินพอแล้ว #กองทุนศิลปะไมตรีมิตร