ไม่มีช่วงเวลาไหนจะเหมาะกับการพูดถึงบทบาทของศิลปะกับการขับเคลื่อนสังคมไปมากกว่าช่วงเวลาของรัฐบาลชุดนี้อีกแล้ว
เรามีกระทรวงวัฒนธรรม เรามีสำนักศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย เรามีหน่วยงานอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มีพระราชกำหนดกองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ที่มีเงินหมุนๆ ปีละมากกว่า 500 ล้านบาท และใดๆ ที่นำเงินภาษีพวกเราไปใช้บริหาร สั้นๆ เลย คือ..
1.ตลอดช่วงโควิดที่ผ่านมามีใครเห็นนโยบาย หรือ แนวทางดีๆ ที่มาช่วยศิลปินออกมาจากหน่วยงานรัฐด้านศิลปะไหมก่อน ?
2.ผมพูดซ้ำๆ ตลอดว่า อย่าเข้าใจว่าทุกกระทรวงถูกโยกเงินเพื่อไปใช้ช่วยเหลือโควิด ไม่ใช่นะ โควิดจะหนักแค่ไหน เงินส่วนหลักๆ มันถูกแบ่งใช้แบบไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว
3.ง่ายๆ คือ เศรษฐกิจประชาชนจะตกต่ำแค่ไหน ก็ยังมีคนที่ได้รับเงินเดือนจากภาษีพวกเราเพื่อทำงานอยู่ตลอด และงานเขาคือช่วยเหลือและพัฒนาศิลปะและศิลปะในประเทศนี้"
4.เรื่องของเรื่อง วันก่อนมีน้องถามผมว่ามีใครที่เป็น Blogger/analyst หรืออยากเขียน Content เกี่ยวกับศิลปะในประเทศไทยบ้างไหม ? เขาอยากร่วมงานด้วยและมีค่าตอบแทนเล็กๆ ..เชี่ยยย ! (ผมคิดในใจ)
5. อย่างแรก ขอบคุณๆๆ ที่น้องเขาอยากลุกมาพลักดันเรื่องนี้ อย่างสอง ผมนึกถึงใครรอบตัวไม่ออกเลยที่ชอบเขียนเรื่องพวกนี้ (ใครรู้จักช่วยแนะนำที)
6.ถ้ารัฐบาลชุดนี้ขับเคลื่อนด้วยการติ(ด่า) ผมคิดว่าวงการศิลปะและวัฒนธรรมเราก็ติ(ด่า) การทำงานของรัฐด้านนี้มาตลอดอยู่แล้ว
7.แต่ตอนนี้เราสามารถยกระดับการติ ยกระดับการเสนอไอเดียและทางออก ยกระดับให้รัฐรู้ว่า Art is matter! ด้วยการ Connect กันและวางแผนการติและสื่อสารอย่างมีระบบ กัดแล้วอย่าปล่อย ส่งไม้ต่อกัน
8.ทีมน้องผมเขาเก่งในเรื่องการประสานงานกับภาคเอกชนองค์กรต่างๆ ที่สนใจในการแก้ปัญหาสังคม เป็นโอกาสดีมากที่พวกเขาอยากเข้าใจว่า Arts & Culture จะเกี่ยวข้องอะไรกับโลกนี้อีกบ้าง
9.และถ้าหน่วยงานศิลปะของรัฐที่ควรสื่อสารและสร้างความเข้าใจว่าศิลปะมันมีคุณค่าอะไร มันแก้ปัญหาอะไรให้สังคมได้บ้าง ไม่สื่อสารในส่วนนี้
10.โอเคงั้นมา...ประชาชนคนไหนที่รู้ว่าศิลปะมันขับเคลื่อนสังคมยังไง ? มันสร้างสรรค์สังคมได้แบบไหนบ้าง ? เรามารวมตัวกันแล้วช่วยกันสื่อสารเรื่องนี้ให้สังคมเข้าใจกัน !
11.แต่จงตระหนักไว้เรากำลังทำในสิ่งที่รัฐมีหน้าที่ทำให้กับพวกเราแต่เขาไม่ทำ...
12.สำหรับผมประชาชนจะลุกมาช่วยกันเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันไม่โอเคเท่าไรถ้าหลับหูหลับตาช่วยแล้วไม่เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างอะไรเลยว่าต้นเหตุอะไร ที่ทำให้เราต้องออกมาช่วยกันเองอยู่ตลอด
12.ลากมายาวมาก สรุปว่าน้องผมกำลังหาเพื่อนๆ ที่อยากเขียน Content ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน & สร้างสรรค์เมือง ไม่ว่าจะมิติใดก็ได้
13.เราอยากวางแผนร่วมกันให้เป็นการทำงานเชิงรุกขึ้น มีระยะยาว มีกลยุทธ์หน่อย น้องผมเป็นเจ้าของ Cheewid องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่กำลังเป็นตัวกลางขับเคลื่อนเรื่องสังคมอยู่ ทีมนี้เก่งมาก
14.ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ อยากให้รู้จริงๆ ว่า ผมไม่มีคอนเนคชั่นและไม่ค่อยรู้จักใครที่ชอบเขียน เป็นนักเขียนและน่าจะสนใจเรื่องนี้จริงๆ แต่ผมคิดว่าการสื่อสารเรื่องนี้สำคัญจริงๆ
15.มาช่วยกันนะ ใครสนใจง่ายๆ ทักกันไว้ก่อนได้เลย นึกถึงใครฝากแนะนำจริงๆ ฝากแชร์ หรือ ใครกำลังทำอะไรมีไอเดียอะไรคล้ายๆ เสริมกันได้ก็คุยได้ เด๋วรายละเอียดยังไง ต่อยอดไปได้แค่ไหน มาคุยกันต่อ
สุดท้ายเอาจริงๆ ผมว่างานนี้ประสบการณ์มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไรอ่ะ อันนี้ผมว่าความอยากและแพชชั่นนำมาก่อนได้ โอกาสจะทำอะไรสักอย่างมาละ ลุย!
#ไม่มีเวลาที่ดีที่สุดที่จะติการทำงานรัฐเพราะเวลาที่ดีสุดคือเราติได้ทุกเวลา
----------------------------------------
ผมได้เริ่มเขียน Post เกี่ยวกับศิลปะและการขับเคลื่อนเมืองไว้ไปตามอ่านกันต่อได้นะ
Ep.1 "How to create social impact by art" https://bit.ly/3oNP0Xn
Ep.2 "รีวิวรัฐบาลกับการแก้ปัญหาศิลปะช่วงวิกฤติ" https://bit.ly/3oKeh4Z